On แปลว่า

ดาวน์โหลดคําศัพท์ภาษาอังกฤษ

On แปลว่า

On
(On อ่านว่า ออน)
On แปลว่า บน [adj. adv. prep.]

ตัวอย่างประโยค On ภาษาอังกฤษ

nothing would make me happier than having your restaurant On my block.
(นัธอิง วูด เมค มี happier แฑ็น แฮฝวิ่ง ยุร เรซโทะแร็นท ออน มาย บล็อค)
คงไม่มีอะไรจะทำให้ฉันมีความสุข ไปกว่าการมีร้านคุณอยู่ใกล้ๆ

into my cakes as a painter puts On a canvas.
(อีนทุ มาย เคค แอ็ส ซา เพนเทอะ พัท ออน อะ แคนฝัซ)
ลงไปในเค้กของฉัน เหมือนกับจิตรกรใส่ในภาพเขียน

I make the best fudge brownies On the planet.
(ไอ เมค เดอะ เบ็ซท ฟัจ บเรานอิ ออน เดอะ พแลนเอ็ท)
ฉันทำเค้กบราวนี่ ได้อร่อยที่สุดในโลก

You are the only person On earth who would say that.
(ยู อาร์ ดิ โอ๊นลี่ เพ๊อร์ซั่น ออน เอิธ ฮู วูด เซ แดท)
มีคุณคนเดียวในโลกล่ะมั้งที่พูดแบบนี้

Whichever. I was On my own.
(ฮวิเชฝเออะ ไอ วอส ออน มาย โอน)
ฉันต้องเลี้ยงลูกคนเดียว

Why don’t you head On over to our coffee corner…
(ฮไว ด้อนท์ ยู เฮ็ด ออน โอเฝอะ ทู เอ๊า คอฟฟิ คอเนอะ)
ทำไมพวกคุณไม่ไปมุมกาแฟ

and he got her a deal On the party room.
(แอ็นด ฮี ก็อท เฮอ รา ดีล ออน เดอะ พาทิ รุม)
เลยได้ลดเยอะ

Well, she’s got her finger On everything I do…
(เว็ล , ชี ก็อท เฮอ ฟีงเกอะ ออน เอ๊วี่ติง ไอ ดู)
เธอมายุ่งวุ่นวายกับฉันทุกเรื่อง…

so now I’m just thinking about getting a tattoo On my back.
(โซ เนา แอม จัซท ติ้งกิง อะเบาท เกดดดิ้ง อะ แท็ททู ออน มาย แบ็ค)
หนูเลยว่าจะสักที่หลังแทน

The pilot light On that big thing that cooks the food? It’s out again.
(เดอะ ไพลัท ไลท ออน แดท บิก ธิง แดท คุ๊ค เดอะ ฟูด อิทซ เอาท อะเกน)
หัวเตาแก๊สอันใหญ่พังอีกแล้ว

He’s On his way to the restaurant now.
(อีส ออน ฮิส เว ทู เดอะ เรซโทะแร็นท เนา)
เขากำลังไปร้านแล้ว

Bring On the beer.
(บริง ออน เดอะ เบีย)
เอาเบียร์มาเลย

Fellows, we’re not a sports bar, but one free beer On the house…
(เฟลโล , เวีย น็อท ดา ซโพท บา , บัท วัน ฟรี เบีย ออน เดอะ เฮาซ)
หนุ่มๆ นี่ไม่ใช่บาร์กีฬานะ แต่เราเลี้ยงเบียร์ฟรีหนึ่งแก้ว

Pablo, keep working On it. I got to call.
(Pablo , คีพ เวิคกิง ออน หนิด ไอ ก็อท ทู คอล)
พาโบล ซ่อมต่อไป ฉันต้องโทรศัพท์

Put this On here.
(พัท ดีซ ออน เฮียร)
ใส่นี่ไว้

Just call her at 7:00, put On a deep voice and tell her it’s over.
(จัซท คอล เฮอ แรท 7 : 00 , พัท ออน อะ ดีพ ฝอยซ แอ็นด เท็ล เฮอ อิทซ โอเฝอะ)
โทรมาตอน 1 ทุ่ม ดัดเสียงทุ้มๆ แล้วบอกเลิกกับท่าน

Oh, so this is my fault. I brought this humiliation On myself.
(โอ , โซ ดีซ ซิส มาย ฟอลท ไอ บรอท ดีซ ฮิวมิลิเอฌัน ออน ไมเซลฟ)
เป็นความผิดแม่งั้นสินะ แม่หาเรื่องให้ตัวเองขายหน้าเอง

Why did you bug out On me?
(ฮไว ดิด ยู บัก เอาท ออน มี)
ทำไมเธอถึงหนีฉันล่ะ

love is friendship On fire.
(ลัฝ อีส ฟเร็นฌิพ ออน ไฟร)
ความรัก คือมิตรภาพที่เร่าร้อน

until I get my feet back On the ground.
(อันทีล ไอ เก็ท มาย ฟีท แบ็ค ออน เดอะ กเรานด)
จนกว่าจะตั้งตัวได้ก่อน

Like plan ahead and paint my room and hang pictures On the wall.
(ไลค แพล็น อะเฮด แอ็นด เพนท มาย รุม แอ็นด แฮ็ง พีคเชอะ ออน เดอะ วอล)
อย่างเตรียมการล่วงหน้า ทาสีห้อง แขวนรูปบนผนัง

Hi, come On in.
(ไฮ , คัมมอน อิน)
หวัดดีค่ะ เข้ามาก่อนสิคะ

There was this Krispy Kreme truck that overturned On Eighth Avenue.
(แดร์ วอส ดีซ Krispy Kreme ทรัค แดท โอเฝอะเทิน ออน เอธ แอฝอินยู)
พอดีรถขนมของคริสปี้ ครีม พลิกคว่ำที่ถนนสายแปด

What do you think that means a blizzard On your wedding day?
(ฮว็อท ดู ยู ธิงค แดท มีน ซา บลีสเสิด ออน ยุร เวดดิง เด)
คุณคิดว่ามันหมายความว่าไงเนี่ย พายุหิมะวันแต่งงานเนี่ยนะ?

Put it up On the other monitor.
(พัท ดิธ อัพ ออน ดิ อัฑเออะ มอนอิเทอะ)
จับมันลงบนพื้น